ปัญหาและแนวทางการรับมือด้านพฤติกรรม อารมณ์ และการรู้คิด

อาการเจ้าปัญหาพาเครียด
อาการเจ้าปัญหาพาเครียด

อาการเจ้าปัญหาพาเครียด

1. ปัญหาถามซ้ำซาก พูดซ้ำ ๆ วนเรื่องเก่า

การดูแล
– เออออไป ไม่ขัด ไม่ย้ำว่าเคยตอบไปแล้ว เพราะทำให้ท่านเสียความมั่นใจ หรือคิดว่าเราโกหก เพราะในความทรงจำท่าน ท่านไม่รู้ข้อมูลที่ถามมาจริง ๆ
– เบี่ยงเบนความสนใจ ชวนคุยหรือทำกิจกรรมอื่น
– ถามถึงคนใกล้ชิดที่ล่วงลับไปแล้ว บอกไปว่าเดี๋ยวมา หรือไปธุระ อย่าพยายามอธิบายย้ำความจริง เพราะทุกครั้งที่ท่านทราบว่าคนที่รักเสียไปแล้ว จะเป็นเรื่องใหม่ เสียใจใหม่ทุกครั้ง

2. ปัญหาเอาแต่ใจตัวเอง ไม่รู้จักรอ ไม่มีเหตุผล พูดไม่รู้เรื่อง

การดูแล
– ไม่เอาชนะ เลี่ยงการทะเลาะ
– หากไม่ให้ความร่วมมือในการทำกิจวัตร ยอมตามไปก่อน อารมณ์ดีขึ้นค่อยชวนใหม่
– เบี่ยงเบนความสนใจอย่างมีศิลปะ ค่อยชวนคุยเรื่องอื่น ชวนทำกิจกรรมที่ชอบ
– อย่าพยายามอธิบายเหตุผล
– ทำความเข้าใจ สังเกตภาษา ท่าทาง ว่าผู้มีภาวะสมองเสื่อมต้องการสื่ออะไร


3. วุ่นวายพลุ่งพล่าน เดินไปมาทั่วบ้าน รื้อค้นของในตู้ ร้องอยากกลับบ้านทั้งที่อยู่บ้านตัวเอง และพยายามจะออกนอกบ้านกลางดึก อาจเกิดจากหลายสาเหตุที่เป็นไปได้ เช่น มีความเจ็บปวดในร่างกาย ท้องผูก หิว รู้สึกไม่ปลอดภัย มีเรื่องกังวลค้างในใจ หรือมีพื้นนิสัยเดิมอยู่ เช่น เป็นคนที่ต้องออกนอกบ้านไปโน่นนี่ทุกวัน

การดูแล
– หาสาเหตุแล้วแก้ให้ตรงจุด
– ให้อยู่ในที่ ๆ สงบ เลี่ยงสาเหตุที่กระตุ้นความวุ่นวาย ก้าวร้าว เช่น ปิดผ้าม่านจะได้ไม่เห็นประตู ไม่พยายามออกนอกบ้านกลางดึก
– ชวนทำกิจกรรมที่ผู้มีภาวะสมองเสื่อมชอบ เบี่ยงเบนความสนใจเพื่อให้ลืม
– เลี่ยงการโต้เถียงกับผู้มีภาวะสมองเสื่อม
– ระวังการใช้ความรุนแรง ทั้งกายและวาจา ผู้มีภาวะสมองเสื่อมจะต่อต้านและมีอาการรุนแรงขึ้น
– ดูจังหวะแล้วกอด อาจช่วยให้อาการสงบลงได้


4. ก้าวร้าว โมโหร้าย พูดจาหยาบคาย ทำร้ายร่างกาย อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เจ็บป่วยไม่สบายตัว บอกสิ่งที่ต้องการไม่ได้ ถูกขัดใจ รู้สึกว่าจะถูกทำร้าย หรือแสดงพื้นนิสัยเดิม เช่น เป็นสาวโสดแต่ถูกผู้ดูแลจับแก้ผ้าอาบน้ำก็ต่อสู้ขัดขืน เป็นต้น

การดูแล
– หาสาเหตุแล้วแก้ให้ตรงจุด
– เลี่ยงการอธิบายเหตุผล
– เลี่ยงการบังคับ ห้าม หรือเร่ง เบี่ยงเบนให้ลืมแล้วค่อยวกกลับมาทำสิ่งที่ผู้ดูแลต้องการให้ผู้มีภาวะสมองเสื่อมทำ เช่น อาบน้ำ กินข้าว
– พยายามจัดกิจวัตรประจำวันให้เป็นเวลา สร้างความคุ้นเคยไม่ต่อต้าน ไม่ต้องเป๊ะมาก
– ถ้าผู้ดูแลรู้สึกโกรธ ควรแยกตัวสงบสติอารมณ์ก่อน ไม่ปักหลักทะเลาะกับผู้มีภาวะสมองเสื่อม
– ให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมสงบ สบาย คนไม่พลุกพล่าน
– ใช้ของที่ชอบ ดึงอารมณ์ให้ผู้มีภาวะสมองเสื่อมสงบลง เช่น ของใช้ประจำตัว เพลง หรืออาหารที่ชอบ
– ผู้ดูแลต้องให้เกียรติในความเป็นตัวตนของผู้มีภาวะสมองเสื่อม แม้จะต้องให้ช่วยเหลือในกิจวัตรง่าย ๆ



5. อาการทางจิตเวช เช่น ประสาทหลอน หลงผิด หูแว่ว เห็นภาพหลอน คิดว่ามีคนขโมยของ ขโมยเงิน คิดว่ามีคนอื่นอยู่ในบ้าน หวาดระแวงคิดว่าคนจะทำร้าย คิดว่าสามี-ภรรยานอกใจ อาจเกิดจากมีไข้ ซึม ท้องผูก ปัสสาวะน้อย

การดูแล
– หาสาเหตุแล้วแก้ไขให้ตรงจุด
– ปลอบโยนหากผู้มีภาวะสมองเสื่อมกลัว
– ควบคุมสติอย่ากลัวตามไปด้วย
– เลี่ยงรายการโทรทัศน์ที่มีความรุนแรงทางอารมณ์ เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ไม่ดี
– เบี่ยงเบนความสนใจอย่างแนบเนียน พาเข้าประเด็นสนทนาอื่น พาไปเดินเล่น
– เลี่ยงการทะเลาะ เลี่ยงอธิบายเหตุผลหรือความจริง
– ในบ้านควรมีแสงสว่างให้มองเห็นชัด มีแสงแดดส่องถึง
– ตรวจดูว่ามีสิ่งทำให้เห็นภาพหลอน เช่น เสื้อผ้าที่แขวนไว้ พุ่มไม้นอกหน้าต่าง ผ้าม่าน ฯลฯ
– ปรับบ้านให้ปลอดภัย ไม่มีอุปกรณ์อันตราย
– ไม่มีเสียงรบกวนมากเกินไป
– เลี่ยงการจัดบ้านหรือสิ่งแวดล้อมใหม่
– พูดคุยเสียงดังฟังชัด ไม่กระซิบกระซาบกันต่อหน้าผู้มีภาวะสมองเสื่อม ทำให้ท่านรู้สึกว่าโดนนินทา
– ห้ามใจ ไม่ใช้คำพูดหรือการกระทำรุนแรง
– อย่าด่วนสรุปว่าทุกสิ่งที่ผู้มีภาวะสมองเสื่อมเล่าไม่จริงเสมอไป ควรตรวจสอบ

6. ซ่อนของ

การดูแล
– จัดระเบียบบ้านตนเอง สิ่งของที่มีโอกาสถูกนำไปซ่อน เช่น กุญแจบ้าน โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ รีโมท หาที่เก็บให้พ้นสายตา
– จัดหากล่องหรือตู้เก็บของส่วนตัวผู้มีภาวะสมองเสื่อม
– สังเกตผู้มีภาวะสมองเสื่อมชอบซ่อนของตรงไหน ยกให้เป็นที่เก็บของประจำของท่าน
– เตรียมของสำรองไว้เผื่อหาของไม่พบ

7. ไม่รู้จัก ทำไม่เป็นแม้แต่เรื่องธรรมดาที่เคยทำได้ เช่น การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้าน ทำกับข้าวแล้วกินไม่ได้ ขับรถจำกฎจราจรไม่ได้ แต่ก็ยังอยากทำตามความเคยชิน

การดูแล ดูตามความสามารถของผู้มีภาวะสมองเสื่อมเป็นหลัก

ยังพอทำอะไรเองได้ อ่านหนังสือออก เข้าใจสัญลักษณ์
– เขียนป้ายติดของใช้เพื่อให้อ่านเห็นชัดเจน เช่น ขวดสบู่ แชมพู น้ำยาล้างจาน ฯลฯ
– เขียนป้ายบอกวิธีใช้และข้อห้ามง่าย ๆ สั้น ๆ เช่น อย่าลืมปิดแก๊ส ห้ามใส่ช้อนส้อมในไมโครเวฟ

อ่านไม่ได้ ไม่เข้าใจสัญลักษณ์ ไม่สนใจอ่าน
– ติดภาพแทนข้อความ เช่น ติดภาพสระผมบนขวดแชมพู ติดภาพหัวกะโหลกไขว้บนขวดสารเคมี ติดภาพขั้นตอนการใช้งานเครื่องซักผ้า
– เก็บสิ่งอันตรายไว้ในที่ผู้มีภาวะสมองเสื่อมเข้าไม่ถึง ล็อกกุญแจ ล็อกห้อง
– เก็บกุญแจรถ บอกว่ารถเสีย แต่การขอให้เลิกขับรถเป็นเรื่องยาก อาจต้องใช้ไม้อ่อน อ้างถึงอันตรายจากคนอื่นบนท้องถนนแทนที่จะบอกว่าผู้มีภาวะสมองเสื่อมไม่มีความสามารถ

8. พฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะ แก้ผ้าในที่สาธารณะ จับอวัยวะเพศคนอื่น ไล่ปล้ำผู้ดูแล อาจเกิดจากสมองส่วนควบคุมพฤติกรรมเสียไป หรือ ร้อน ปวดปัสสาวะ คัน เจ็บ ฯลฯ

การดูแล
– หาสาเหตุและแก้ไขให้ตรงจุด
– พาไปห้องนอนให้อยู่คนเดียวเพื่อปลดเปลื้อง
– ถ้ามีพฤติกรรมคุกคาม ควรมีผู้ดูแลมากกว่า 1 คน หาผู้ดูแลที่ไม่ใช่สเป็กที่ถูกใจ
– เลี่ยงการประณาม ตำหนิรุนแรง
– ปรึกษาแพทย์เรื่องการใช้ยาช่วย
*พยายามมองที่คุณค่าในตัวผู้มีภาวะสมองเสื่อมที่เคยเป็น ทำความเข้าใจว่าการกระทำผิดแปลก ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่เป็นเพราะโรคทำร้ายสมองให้เสื่อมลง จะช่วยให้เปิดใจยอมรับและเห็นอกเห็นใจผู้ป่วยง่ายขึ้น
ยืดหยุ่น ใส่ใจ ปลอดภัย ไม่เอาชนะ
ถ้าพบว่าคนในครอบครัวเริ่มมีอาการสมองเสื่อม ควรเตรียมตัวเตรียมใจ เพราะอาการและการดูแลต่างจากโรคอื่น
การเพิ่มสมรรถนะและวิธีการผ่อนคลายร่างกาย
ผู้ดูแลอาจมีความเหนื่อยล้าสะสม เครียดกับอาการผู้มีภาวะสมองเสื่อม ปัญหาขาดรายได้ กินไม่เป็นเวลา ...
บทความอื่นที่น่าสนใจ
ไขมันในเลือดผิดปกติ
ไขมันอุดตันในหลอดเลือดขนาดกลางและใหญ่ มีพัฒนาการเป็นขั้นตอน
โซนอันตราย
ผู้มีภาวะสมองเสื่อมจะหลงลืม ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ...
โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคหัวใจและหลอดเลือด เกิดจากหลอดเลือดเสื่อมสภาพ ...
ปัญหาการกินและการขับถ่ายที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
เมื่อถึงวัยสูงอายุ ประสิทธิภาพการทำงานภายในร่างกายลดลง ...
Caregiver Connect
 
© Geriatrics Medicine, Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital, Mahidol University. All Rights Reserved.